บทที่ 7 การปรับปรุงเพื่อการเพิ่มผลผลิต
การปรับปรุงคุณภาพเพื่อการเพิ่มผลผลิต เปรียบเสมือนกับการแก้ปัญหาเพื่อให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลที่ดีขึ้น ในการปรับปรุงแก้ไขจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของวิธีการการแก้ไขปัญหา ซึ่งตามวิธีของการแก้ปัญหานี้ได้มีการใช้การแก้ปัญหาตามหลักวงจร PDCA ของ W.E. Deming โดยในแต่ละขั้นตอนของการปฎิบัติจะต้องได้รับการตอบสนองการทำงานจากกลุ่มคนที่ทำงานด้วยกันร่วมกันทำจึงจะประสบผลสำเร็จ การที่จะทำการปรับปรุงคุณภาพเพื่อที่จะเพิ่ม Productivity อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแล้วจำเป็นที่จะต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนที่ทำให้ผู้ที่ปฎิบัติงานมีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน เมื่อพิจารณาถึงกระบวนการในการปรับปรุง Productivity แล้วกล่าวได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับกระบวนการเพื่อการแก้ปัญหาเพราะเป็นลักษณะการที่องค์กรมุ่งเน้นที่ความพยายามเพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วกระบวนการแก้ปัญหาตามวงจร PDCA ประกอบด้วย
1. PLAN
เป็นการค้นหาสาเหตุหรือหัวข้อของปัญหา มีการกำหนดเป้าหมายของงานที่จะทำสำรวจสภาพปัจจุบันแล้วกำหนดแนวทางแก้ไข
2. DO
เป็นการดำเนินการแก้ไข
3. CHECK
เป็นการตรวจสอบผลการแก้ไข
4. ACT
การกำหนดมาตรฐานและปรับปรุงให้ดีขึ้น
การวางแผน ( PLAN)
การวางแผนเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญมาก เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาเพราะุ้ถ้ามีการวางแผนที่ดีจะทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ ลงอย่างง่ายดาย เนื่องจากการการวางแผนที่ดีจะมีการคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ผิดปกติขึ้นก็สามารถที่จะ แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นขั้นตอนการวางแผนจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การวางแผนที่ดีและเหมาะสมควรมีการดำเนินการ ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
1. เลือกเรื่องที่ต้องการวางแผน เรื่องที่ต้องการแก้ไขปรับปรุง หรือระบุปัญหา
2. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เช่น สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา
3. กำหนดเป้าหมายที่ต้องการ และตัวชี้วัดความสำเร็จ
4.เขียนแผน
จะเห็นว่าแผนงานที่ดีจะช่วยให้เราบรรลุผลสำเร็จได้ซึ่งแผนที่ดีจะต้องมีลักษณะที่เรียกว่า "SMART" คือลักษณะ ดังต่อไปนี้
S = Specificแผนงานที่ดี จะต้องมีความเฉพาะเจาะจง ชัดเจน
M = Measurableแผนงานที่ดี จะต้องสามารถวัดได้
A = Attainableแผนงานที่ดี จะต้องบรรลุผลสำเร็จได้
R = Realisticแผนงานที่ดี จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
T = Timlyแผนงานที่ดี จะต้องมีกรอบระยะเวลากำหนด
ในการวางแผนที่จะเป็นแผนงานที่ดีมีลักษณะที่เรียกว่า "SMART" นั้นจะต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการวางแผน เครื่องมือดังกล่าว ได้แก่
- ผังการดำเนินงาน (Flowchart) เป็นเครื่องมือที่ใช้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานว่าจะเริ่มต้นด้วยอะไร และมีลำดับขั้นการทำงานอย่างไร อีกทั้งยังสามารถระบุตัวผู้รับผิดชอบในแต่ละระดับขั้นตอนได้ด้วย
- การระดมสมอง (Brain Storm) การระดมสมองคือการระดมความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผลสรุปที่ได้มาใช้ในการวางแผน และ ขั้นตอนการระดมสมอง มีดังนี้
1. วางกฎเกณฑ์ที่จะใช้ร่วมกัน
2. จัดหาเครื่องมือที่จะใช้ในการระดมสมอง เช่น ปากกา ดินสอ
3. ให้ทุกคนเสนอความคิดเห็นในหัวข้อที่กำหนดอย่างเต็มที่และเปิดเผย
4. มีการบันทึกความคิดเห็นของทุกคนลงบนกระดานที่สามารถมองเห็นได้ร่วมกัน (กระดานดำ / white board / flip chart)
5. ตกลงทำความเข้าใจในข้อมูลที่ได้
6. สรุป และจัดทำกลุ่มข้อมูล
การปฏิบัติตามแผน (DO)
ในขั้นตอนนี้เป็นความพยายามทำตามแนวทางที่ได้คิดและวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น และก่อนที่จะลงมือปฏิบัติตามแผนนั้น เราควรจะได้รับ การฝึกฝนเพื่อให้มีความรู้หรือทักษะในการปฏิบัติให้ถูกต้องเสียก่อน และขั้นลงมือปฏิบัติ (DO) นี้มีความสำคัญไม่แพ้การวางแผน ในบางครั้ง ในขั้นต้อนปฏิบัตินี้มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ การปรับเปลี่ยนแผนก็เป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ได้ เรียกว่า เป็นวงจร PDCA ย่อย ๆ ในขั้นตอนการ DO ด้วยการตรวจสอบ (CHECK)
การตรวจสอบเป็นการเปรียบเทียบดูผลการปฏิบัติว่าเป็นไปตามแผน และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ และเป็นการ ประเมินทางออกของปัญหานั้น ซึ่งในขั้นตอนของการตรวจสอบนั้นจะดีเีพียงใดควรมีการดำเนินการ ดังนี้
1. เปรียบเทียบผลที่ได้จากการปฏิบัติจริงกับแผนที่กำหนดไว้
2. ตรวจสอบว่่ามีข้อมูลอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้าง
3. รวบรวม และบันทึกข้อมูลที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ และปรับปรุงต่อไป เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบการทำงาน มีดังนี้
- ใบตรวจสอบ (Check Sheet)ใบตรวจสอบจะช่วยให้เราทราบความถี่ของเหตุการณ์ กิจกรรม หรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดีเพื่อประกอบ การตัดสินใจ ขั้นตอนและวิธีการในการสร้างใบตรวจสอบ ได้แก่
1. กำหนดชนิด หรือประเภทของข้อมูลที่ต้องการ ทำไมจึงต้องการเก็บข้อมูลนี้ และข้อมูลนี้ทำให้ทราบอะไร
2. สร้างตาราง หรือแบบฟอร์มให้มีจำนวนช่องที่กว้างพอ (ถามตัวเองว่าต้องการข้อมูลอะไร)
3. บันทึกผล (ถ้ากำหนดช่วงเวลา)
4. วิเคราะห์ผลที่ได้เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
- ผังก้างปลา (Fishbone Diagram) ผังก้างปลา เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาสาเหตุของปัญหา โดยการสร้างผังก้างปลานี้ทุกคนต้องมีอิสระในความคิดอย่างเต็มที่ในการระบุ ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ขั้นตอนการทำผังก้างปลา มีดังนี้
1. วางผัง กำหนดหัวปลาและลำตัวให้เหมาะสม
2. ให้หัวปลาเป็นประเด็นปัญหา หรือเรื่องที่สงสัย
3. กำหนดก้างปลาให้เป็นสาเหตุของปัญหาหลัก ซึ่งสาเหตุของปัญหาส่วนใหญ่ก็จะเำี่กี่ยวข้องกับ 4 M ซึ่งได้แก่ คน เงิน วิธีการ วัตถุดิบ และในบางครั้งก็อาจจะมีเรื่องของสภาพแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
4. ระบุต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาหลัก และสร้างเป็นก้างปลาย่อย
- พาเรโต้ (Pareto) พาเรโต้ เป็นวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยกราฟอย่างง่ายที่สุดในรูปแบบของกราฟแท่่งที่เรียงลำดับความถี่จากมากไปน้อย พาเรโต้จะช่วยให้
เห็นว่ามีเรื่องที่มีผลกระทบต่อกิจกรรมอย่างไร เป็นเรื่องที่เป็นปัญหามาก หรือน้อยเพียงใด เมื่อเราเขียนกราฟพาเรโต้แล้วจะทำให้เราทราบว่า ควรจะจัดการกับปัญหาใดก่อนหลัง ขั้นตอนและวิธีการในการสร้างพาเรโต้ มีดังนี้
1. เก็บข้อมูลแบบลงความถี่ (ในหัวข้อหรือประเด็นปัญหาที่สำคัญ)
2. สร้างกราฟจากข้อมูลที่ได้ กำหนดให้ประเด็นปัญหาอยู่ในแนวนอน
3. นำข้อมูลมาบันทึก และเรียงลำดับความถี่จากมากไปน้อย
4. พิจารณากราฟแท่่งที่มีความถี่สูงสุด และกำหนดให้เป็นประเด็นปัญหาที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเพื่อที่จะทำให้เกิด
การปรับปรุง หรือช่วยแก้ปัญหา และอุปสรรคให้สำเร็จลุล่วงไปทีละขั้นตอนอย่างง่ายดาย
การดำเินินการให้เหมาะสม (ACT)
ขั้นตอนการ ACT นี้เป็นขั้นตอนการนำผลที่ได้จากการตรวจสอบมาดำเนินการให้เหมาะสม ดังนี้
1. กรณีที่ผลการปฏิบัิติงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ให้นำวิธีการหรือกระบวนการในการปฏิบัติงานนั้น ๆ มาพยายามปรับใช้จนกลาย เป็นนิสัย หรือเป็นมาตรฐานในการทำงานครั้งต่อ ๆ ไป และต้องพยายามที่จะคิดค้นหาทางที่จะปรับปรุงกระบวนการ หรือวิธีการที่ทำให้แผนบรรลุ ผลสำเร็จ และดีขึ้นเืรื่อยๆ
2. กรณีผลการปฏิบัิติงานไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ขั้นตอนนี้ให้นำข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบมาวิเคราะห์ และพิจารณาว่าควร จะดำเนินการอย่างไร โดยมีทางเลือก ดังต่อไปนี้
- มองหาทางเลือกใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้
- ใช้ความพยายามให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
- ขอความร่วมมือจากผู้อื่นในกรณีที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้ด้วยตนเอง
- เปลี่ยนเป้าหมายใหม่
เครดิส : http://www.uttvc.ac.th/uttvc/wbi2553/pdca3.html
การปรับปรุงคุณภาพเพื่อการเพิ่มผลผลิต เปรียบเสมือนกับการแก้ปัญหาเพื่อให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลที่ดีขึ้น ในการปรับปรุงแก้ไขจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของวิธีการการแก้ไขปัญหา ซึ่งตามวิธีของการแก้ปัญหานี้ได้มีการใช้การแก้ปัญหาตามหลักวงจร PDCA ของ W.E. Deming โดยในแต่ละขั้นตอนของการปฎิบัติจะต้องได้รับการตอบสนองการทำงานจากกลุ่มคนที่ทำงานด้วยกันร่วมกันทำจึงจะประสบผลสำเร็จ การที่จะทำการปรับปรุงคุณภาพเพื่อที่จะเพิ่ม Productivity อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแล้วจำเป็นที่จะต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนที่ทำให้ผู้ที่ปฎิบัติงานมีความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน เมื่อพิจารณาถึงกระบวนการในการปรับปรุง Productivity แล้วกล่าวได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับกระบวนการเพื่อการแก้ปัญหาเพราะเป็นลักษณะการที่องค์กรมุ่งเน้นที่ความพยายามเพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วกระบวนการแก้ปัญหาตามวงจร PDCA ประกอบด้วย
1. PLAN
เป็นการค้นหาสาเหตุหรือหัวข้อของปัญหา มีการกำหนดเป้าหมายของงานที่จะทำสำรวจสภาพปัจจุบันแล้วกำหนดแนวทางแก้ไข
2. DO
เป็นการดำเนินการแก้ไข
3. CHECK
เป็นการตรวจสอบผลการแก้ไข
4. ACT
การกำหนดมาตรฐานและปรับปรุงให้ดีขึ้น
การวางแผน ( PLAN)
การวางแผนเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญมาก เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาเพราะุ้ถ้ามีการวางแผนที่ดีจะทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ ลงอย่างง่ายดาย เนื่องจากการการวางแผนที่ดีจะมีการคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ผิดปกติขึ้นก็สามารถที่จะ แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นขั้นตอนการวางแผนจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การวางแผนที่ดีและเหมาะสมควรมีการดำเนินการ ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
1. เลือกเรื่องที่ต้องการวางแผน เรื่องที่ต้องการแก้ไขปรับปรุง หรือระบุปัญหา
2. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เช่น สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา
3. กำหนดเป้าหมายที่ต้องการ และตัวชี้วัดความสำเร็จ
4.เขียนแผน
จะเห็นว่าแผนงานที่ดีจะช่วยให้เราบรรลุผลสำเร็จได้ซึ่งแผนที่ดีจะต้องมีลักษณะที่เรียกว่า "SMART" คือลักษณะ ดังต่อไปนี้
S = Specificแผนงานที่ดี จะต้องมีความเฉพาะเจาะจง ชัดเจน
M = Measurableแผนงานที่ดี จะต้องสามารถวัดได้
A = Attainableแผนงานที่ดี จะต้องบรรลุผลสำเร็จได้
R = Realisticแผนงานที่ดี จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
T = Timlyแผนงานที่ดี จะต้องมีกรอบระยะเวลากำหนด
ในการวางแผนที่จะเป็นแผนงานที่ดีมีลักษณะที่เรียกว่า "SMART" นั้นจะต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการวางแผน เครื่องมือดังกล่าว ได้แก่
- ผังการดำเนินงาน (Flowchart) เป็นเครื่องมือที่ใช้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานว่าจะเริ่มต้นด้วยอะไร และมีลำดับขั้นการทำงานอย่างไร อีกทั้งยังสามารถระบุตัวผู้รับผิดชอบในแต่ละระดับขั้นตอนได้ด้วย
- การระดมสมอง (Brain Storm) การระดมสมองคือการระดมความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผลสรุปที่ได้มาใช้ในการวางแผน และ ขั้นตอนการระดมสมอง มีดังนี้
1. วางกฎเกณฑ์ที่จะใช้ร่วมกัน
2. จัดหาเครื่องมือที่จะใช้ในการระดมสมอง เช่น ปากกา ดินสอ
3. ให้ทุกคนเสนอความคิดเห็นในหัวข้อที่กำหนดอย่างเต็มที่และเปิดเผย
4. มีการบันทึกความคิดเห็นของทุกคนลงบนกระดานที่สามารถมองเห็นได้ร่วมกัน (กระดานดำ / white board / flip chart)
5. ตกลงทำความเข้าใจในข้อมูลที่ได้
6. สรุป และจัดทำกลุ่มข้อมูล
การปฏิบัติตามแผน (DO)
ในขั้นตอนนี้เป็นความพยายามทำตามแนวทางที่ได้คิดและวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น และก่อนที่จะลงมือปฏิบัติตามแผนนั้น เราควรจะได้รับ การฝึกฝนเพื่อให้มีความรู้หรือทักษะในการปฏิบัติให้ถูกต้องเสียก่อน และขั้นลงมือปฏิบัติ (DO) นี้มีความสำคัญไม่แพ้การวางแผน ในบางครั้ง ในขั้นต้อนปฏิบัตินี้มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ การปรับเปลี่ยนแผนก็เป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ได้ เรียกว่า เป็นวงจร PDCA ย่อย ๆ ในขั้นตอนการ DO ด้วยการตรวจสอบ (CHECK)
การตรวจสอบเป็นการเปรียบเทียบดูผลการปฏิบัติว่าเป็นไปตามแผน และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ และเป็นการ ประเมินทางออกของปัญหานั้น ซึ่งในขั้นตอนของการตรวจสอบนั้นจะดีเีพียงใดควรมีการดำเนินการ ดังนี้
1. เปรียบเทียบผลที่ได้จากการปฏิบัติจริงกับแผนที่กำหนดไว้
2. ตรวจสอบว่่ามีข้อมูลอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้าง
3. รวบรวม และบันทึกข้อมูลที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ และปรับปรุงต่อไป เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบการทำงาน มีดังนี้
- ใบตรวจสอบ (Check Sheet)ใบตรวจสอบจะช่วยให้เราทราบความถี่ของเหตุการณ์ กิจกรรม หรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดีเพื่อประกอบ การตัดสินใจ ขั้นตอนและวิธีการในการสร้างใบตรวจสอบ ได้แก่
1. กำหนดชนิด หรือประเภทของข้อมูลที่ต้องการ ทำไมจึงต้องการเก็บข้อมูลนี้ และข้อมูลนี้ทำให้ทราบอะไร
2. สร้างตาราง หรือแบบฟอร์มให้มีจำนวนช่องที่กว้างพอ (ถามตัวเองว่าต้องการข้อมูลอะไร)
3. บันทึกผล (ถ้ากำหนดช่วงเวลา)
4. วิเคราะห์ผลที่ได้เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
- ผังก้างปลา (Fishbone Diagram) ผังก้างปลา เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาสาเหตุของปัญหา โดยการสร้างผังก้างปลานี้ทุกคนต้องมีอิสระในความคิดอย่างเต็มที่ในการระบุ ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ขั้นตอนการทำผังก้างปลา มีดังนี้
1. วางผัง กำหนดหัวปลาและลำตัวให้เหมาะสม
2. ให้หัวปลาเป็นประเด็นปัญหา หรือเรื่องที่สงสัย
3. กำหนดก้างปลาให้เป็นสาเหตุของปัญหาหลัก ซึ่งสาเหตุของปัญหาส่วนใหญ่ก็จะเำี่กี่ยวข้องกับ 4 M ซึ่งได้แก่ คน เงิน วิธีการ วัตถุดิบ และในบางครั้งก็อาจจะมีเรื่องของสภาพแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
4. ระบุต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาหลัก และสร้างเป็นก้างปลาย่อย
- พาเรโต้ (Pareto) พาเรโต้ เป็นวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยกราฟอย่างง่ายที่สุดในรูปแบบของกราฟแท่่งที่เรียงลำดับความถี่จากมากไปน้อย พาเรโต้จะช่วยให้
เห็นว่ามีเรื่องที่มีผลกระทบต่อกิจกรรมอย่างไร เป็นเรื่องที่เป็นปัญหามาก หรือน้อยเพียงใด เมื่อเราเขียนกราฟพาเรโต้แล้วจะทำให้เราทราบว่า ควรจะจัดการกับปัญหาใดก่อนหลัง ขั้นตอนและวิธีการในการสร้างพาเรโต้ มีดังนี้
1. เก็บข้อมูลแบบลงความถี่ (ในหัวข้อหรือประเด็นปัญหาที่สำคัญ)
2. สร้างกราฟจากข้อมูลที่ได้ กำหนดให้ประเด็นปัญหาอยู่ในแนวนอน
3. นำข้อมูลมาบันทึก และเรียงลำดับความถี่จากมากไปน้อย
4. พิจารณากราฟแท่่งที่มีความถี่สูงสุด และกำหนดให้เป็นประเด็นปัญหาที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเพื่อที่จะทำให้เกิด
การปรับปรุง หรือช่วยแก้ปัญหา และอุปสรรคให้สำเร็จลุล่วงไปทีละขั้นตอนอย่างง่ายดาย
การดำเินินการให้เหมาะสม (ACT)
ขั้นตอนการ ACT นี้เป็นขั้นตอนการนำผลที่ได้จากการตรวจสอบมาดำเนินการให้เหมาะสม ดังนี้
1. กรณีที่ผลการปฏิบัิติงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ให้นำวิธีการหรือกระบวนการในการปฏิบัติงานนั้น ๆ มาพยายามปรับใช้จนกลาย เป็นนิสัย หรือเป็นมาตรฐานในการทำงานครั้งต่อ ๆ ไป และต้องพยายามที่จะคิดค้นหาทางที่จะปรับปรุงกระบวนการ หรือวิธีการที่ทำให้แผนบรรลุ ผลสำเร็จ และดีขึ้นเืรื่อยๆ
2. กรณีผลการปฏิบัิติงานไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ขั้นตอนนี้ให้นำข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบมาวิเคราะห์ และพิจารณาว่าควร จะดำเนินการอย่างไร โดยมีทางเลือก ดังต่อไปนี้
- มองหาทางเลือกใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้
- ใช้ความพยายามให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
- ขอความร่วมมือจากผู้อื่นในกรณีที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้ด้วยตนเอง
- เปลี่ยนเป้าหมายใหม่
เครดิส : http://www.uttvc.ac.th/uttvc/wbi2553/pdca3.html